Scrapped Princess เจ้าหญิงผู้ถูกทอดทิ้ง - นิยาย Scrapped Princess เจ้าหญิงผู้ถูกทอดทิ้ง : Dek-D.com - Writer
×

    Scrapped Princess เจ้าหญิงผู้ถูกทอดทิ้ง

    ลีอานา เจ้าหญิงผู้ถูกหลงลืม ครั้งนี้ที่ย้อนเวลากลับมาจึงตัดสินใจตรงไปหาเขา เธอไม่มีพลังหรืออำนาจอะไรในกำมือ ดังนั้นถึงลองยื่นข้อเสนอกับเขา ต่อให้จะกลายเป็นว่าได้ทำสัญญากับปิศาจก็ช่าง

    ผู้เข้าชมรวม

    37

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    37

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  8 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  9 พ.ย. 67 / 16:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ประตูตรงหน้าเปิดออกเชื่องช้า เผยให้เห็นท้องพระโรงอันกว้างขวางของจักรวรรดิ เสียงเพลงเบาๆ จากวงดนตรีเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ข้าก้าวเดินไปบนพรมสีแดงเข้ม ผ้าคลุมผืนบางของชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ปลิวไสวตามจังหวะการเดิน ยิ่งเข้าใกล้จุดทำพิธี ความรู้สึกทั้งหลายก็ยิ่งลอยเข้ามาท่วมท้นใจ ทั้งความตื่นเต้น ความกังวล และความหวัง

    เมื่อข้าหยุดยืน ณ จุดทำพิธี เสียงของนักบวชที่ดำเนินพิธีจึงเริ่มดังขึ้น ข้ารู้สึกถึงทุกสายตาที่จับจ้องมายังตัวข้า อาจจะเป็นเพราะความงดงามของชุดที่ข้าใส่ หรืออาจเป็นความหมายที่อยู่เบื้องหลังงานอภิเษกนี้ที่พวกเขากำลังพยายามคาดเดา ข้าหายใจเข้าลึกๆ เพื่อคลายความตึงเครียดในใจ

    ท้องพระโรง อันสวยงามประดับประดาไปด้วยดอกไม้สดและโคมไฟ ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในฝัน แต่ความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าคือการก้าวเข้าสู่ชีวิตใหม่ ที่ตัวข้าไม่แน่ใจว่าจะต้องเผชิญอะไรในวันข้างหน้า

    “ท่านลีอานา ท่านยินดีจะรับดยุกแห่งลอว์เรนซ์เป็นสามีของท่านหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

    "ค่ะ ข้ายินดี"

    ครั้นหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่ข้าต้องแต่งงานด้วย เขาสวมแหวนเงินเกลี้ยงที่นิ้วให้เรียบร้อย เจ้าตัวก็เอื้อมมือเปิดผ้าคลุมสีขาวบางเบานั่นไปด้านหลัง

    รูปโฉมของบุรุษตรงหน้าข้ายังชวนตะลึงเช่นเคย โครงหน้าได้รูปมีแนวสันกราม ดวงตาคมเรียวคล้ายเหยี่ยว นัยน์ตาสีน้ำเงินลึกล้ำ จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้ที่ติ ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งก็ไม่ชินเสียที ซึ่งฝ่ายตรงข้ามก็คลี่ยิ้มทำข้าสะดุ้งหลบตาแบบลืมตัว

    ทั้งหมดเป็นการแสดง การแสดงเท่านั้น ข้าพยายามท่องเอาไว้ มันเป็นสัญญาที่ข้าหยิบยื่นให้เขาเพื่อให้ช่วยพาข้าออกไปจากชีวิตที่เมืองหลวง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ปีนี้พอข้าอายุสิบหกปี เขาก็แค่มาพาออกไปตามตกลง

    "ลีอานา"

    หันกลับมาเผชิญหน้าเพราะได้ยินเรียกชื่อ ก่อนจะเบิกตาโตที่เห็นเขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้กะทันหัน เดี๋ยว เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่ง ข้าก็รู้อยู่หรอก แต่ขอเวลานอกสักครู่ได้ไหมคะ!?

    ข้าหลับตาแน่นแถมเผลอสะดุ้งตอนที่ผิวปากแตะกัน จากนั้นเขาก็ยื่นมือมาเชยคางให้ข้าแหงนเงยหน้าขึ้น รู้สึกร้อนวาบแปลกๆ สัมผัสนี้ทั้งน่ากลัวน่าหลงใหล หอมหวานยิ่งกว่าอะไร ข้าเพิ่งเคยรู้ว่าจูบมันรู้สึกดีแบบนี้ นุ่มนวลจนข้าเผยอปากออกตามคำเชิญชวนให้เขาได้เข้ามาปล้นชิงลมหายใจได้สะดวกขึ้นอีก กระทั่งนาทีต่อมาถึงเพิ่งนึกได้ว่าที่นี่มีคนร่วมงานพิธีจำนวนมาก ข้าจึงทุบกำปั้นที่อกเขาเพื่อบอกให้หยุด แต่เหมือนข้ากำลังต่อสู้กับกำแพง ท่าทางไม่สะทกสะท้านใดๆ โชคดีที่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนริมฝีปากเอง รู้อยู่หรอกว่าควรแสดงให้สมบทบาทแต่ต้องจูบกันขนาดนี้เหรอ?

    ตอนนี้ข้าไม่กล้าสบตาคนในงานยิ่งกว่าเดิมอีก ขนาดนักบวชที่ทำพิธียังไอกลบเกลื่อนเลย ข้าพยายามรักษาอาการแต่รู้สึกได้ว่าหน้าต้องแดงมากแน่ๆ ได้ยินเสียงคนกระทำหลุดขำ ข้าก็เม้มริมฝีปากแน่นแบบเคืองๆ ซึ่งพอท่านนักบวชถอยหลบไปยืนด้านข้าง ท่านดยุกกับข้าก็แสดงความเคารพต่อองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี

    "ข้าขออวยพรให้ทั้งคู่"

    "ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ" "ขอบพระทัยเพคะ"

    นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ข้าได้มองพระพักตร์ในระยะใกล้แบบนี้ ที่ผ่านมาท่านก็ไม่สังเกตเห็นข้าสักนิดหรือพูดให้ถูกอาจจะทรงจำไม่ได้

    'สตรีศักดิ์สิทธิ์'

    ท่านแม่ของข้าถูกเรียกด้วยชื่อนั้น ท่านได้รับพรจากทวยเทพและสามารถใช้สิ่งที่เรียกว่า 'พลังรักษา' ได้ นั่นทำให้ท่านแม่ได้อภิเษกกับองค์จักรพรรดิ และให้กำเนิดข้า

    แต่นั่นไม่ใช่ความรัก บางครั้งก็สงสัยว่าองค์จักรพรรดิจะทรงจำได้ไหมว่าท่านแม่มีหน้าตาอย่างไร ท่านปล่อยให้ท่านแม่ที่ร่างกายอ่อนแอต้องสิ้นลมเพียงลำพังที่ท้ายปราสาทโดยไม่แม้แต่จะเหลียวแล หากข้าไม่ได้กำลังจะอภิเษกกับท่านดยุก ท่านก็คงทรงลืมว่ามีข้าเป็นธิดาของท่านอีกคน แต่ว่าข้าจะไม่เสียใจอีกต่อไปแล้ว

    ตัวข้าขี้กลัว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพลังรักษาเพราะข้าคงไม่ได้รับสืบทอดมา ไม่เคยศึกษามารยาท ไม่มีความรู้หรือข้อปฏิบัติในฐานะหญิงชนชั้นสูง ขนาดอ่านเขียนทั่วไปก็ทำไม่ได้ แต่ว่าครั้งนี้ข้าจะไม่ยอมจบแบบเดิม จะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกหลงลืมอยู่ที่นี่ และต้องไม่จบชีวิตเช่นนั้นอีก

    ข้ายังจำได้ทั้งหมด อีกเจ็ดปีข้างหน้าจะเกิดสงคราม กองทหารจะบุกเข้ามาถึงเมืองหลวง ข้าจะถูกฆ่า ชีวิตครั้งต่อๆ มาที่ข้าพยายามหลบหนีก็ไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือโจรป่าหรือสัตว์ร้าย

    โชคดีที่สุดก็มีครั้งหนึ่งที่โดดลงทะเล รอดตายเพราะมีคนเรือสินค้าช่วยไว้ด้วยความบังเอิญ ท่านพ่อค้าใจดีสอนข้าอ่านหนังสือ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ และสอนการคิดคำนวณ นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้ามีความสุขมาก แต่สุดท้ายข้าก็ทำให้ท่านพ่อค้าต้องโชคร้าย ฝ่ายศัตรูพยายามไล่ล่าสังหารเชื้อพระวงศ์ให้สิ้น แน่นอนว่ารวมถึงข้าด้วย แม้ว่าข้าจะไม่เคยได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นเจ้าหญิงเลยสักครั้งก็ตาม ดังนั้นข้าจึงไม่อยากให้ท่านพ่อค้าต้องมาจบชีวิตเพราะข้าอีก

    โดยทั้งหมดทั้งปวงก็มีสาเหตุมาจากชายคนนี้ ดยุกแห่งลอว์เรนซ์ หรือเดิมทีคือมาร์ควิสลอว์เรนซ์ ข้าเคยเห็นเขาบนหลังม้าและออกคำสั่งให้กองทหารเหยียบเท้าบุกเข้าปราสาท แววตานิ่งสนิทเย็นชานั่นแตกต่างกับรอยยิ้มที่เขาใช้สวมปิดบังเบื้องหลังนี้ได้อย่างน่ากลัว ไม่ว่ากี่ครั้งเขาก็ส่งคนไปฆ่าข้า ไม่ว่าจะหนีหรือทำอะไรก็จบแบบเดิม

    ครั้งนี้ที่ย้อนกลับมา ข้าถึงตัดสินใจตรงไปหาเขา ข้าไม่มีพลังหรืออำนาจอะไรในกำมือ จากนี้ข้าก็แค่ระวังให้มาก จะต้องไม่เป็นไรแน่ ข้ากุมจุดอ่อนของเขาไว้อยู่ ถ้าผ่านพ้นไปได้ข้าก็จะมีอิสระ

    ต่อให้จะกลายเป็นว่าข้าได้ทำสัญญากับปิศาจก็ช่าง...

    ------

     

    เปิดเรื่องแบบตามใจฉัน อัปเมื่อมีเวลานะคะ เนื้อหาแบบคิดอะไรได้ก็เขียนสุดๆ แก้เครียด (หรือจะเครียดกว่าเก่า 5555+) ช่วงกิจกรรมจะอัพให้ได้ครบ 4 ธีมของ readawrite ก่อนแล้วค่อยอัปตามโอกาสเอื้ออำนวยค่ะ แต่เรื่องนี้จะเน้นรวบรัด คาดว่าจำนวนตอนไม่เยอะค่ะ

    เรื่องนี้ติดเหรียญนะคะ แล้วถ้าเขียนจบ ทำเล่ม Ebook ค่า

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น